ตลาดน้ำ อัมพวาใจคนจร เรืองราวจากคนรอนแรม

ตลาดน้ำ อัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำที่มีมนต์เสน่ห์ ตรึงตาต้องใจ ให้นักท่องเที่ยวผ่านมาผ่านไปต้องแวะสัมผัสสักครั้ง แล้วก็อีกสักครั้ง เช่นเดียวกันกับตัวข้าพเจ้า ที่เคยมาเยือนตลาดน้ำแห่งนี้ เพราะอยากลองดีแต่ไม่มีเพื่อนร่วมก๊วนว่างกัน สรุปครั้งนั้น ผมได้มาคนเดียว และได้ขอแจมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ได้เก็บภาพส่วนหนึ่งไปเยาะเย้ย ผู้กบฏทั้งหลาย ปรากฏว่าได้ผลครับ ผมหลังจากเห็นรูป ก็มีอาการแทบจะลงแดง อ้อนวอน เพียงว่า คราวหน้าต้องพาข้าไปด้วย แต่ก็ พลาดเรื่อยมาเพราะข้าพเจ้ามัวแต่ตะลอนไปที่อื่นอยู่ จนล่าสุดก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาส ได้มีโอกาสไปงานลิ้นจี่แม่กลอง ก็ได้น้องอีกคนไปด้วย ทำให้หลาย ๆ ท่านหมั่นใส้ผมซะใหญ่โต

 

ครั้งนั้นได้เพื่อนใหม่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านการท่องเที่ยว อยู่ที่อัมพวา ให้เกียรติและเอี้อเฟื้อพาเที่ยว และแนะนำของดีที่อัมพวา ไว้หลายอย่าง ทั้งลิ้นจี่ ทั้งสถานที่สำคัญทั้งงานและวิถีชีวิตที่น่าสนใจในพื้นที่อัมพวา

 

ประวัติความสำคัญของอัมพวา

ไม่มีอะไรน่าสงสัย และไม่มีอะไรเคลือบแคลงครับ สำรับ เมืองท่าค้าขาย ของชุมชนในอดีตนั้น ย่อมต้องเป็นเส้นทางน้ำ และอัมพวาก็เป็น ปากทางเข้าออกสู่คลองใหญ่น้อย ที่เชื่อมโยงถึง ชุมชนต่าง ๆ ทำให้อัมพวาเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน สินค้าจนกลายเป็นเมื่อท่าสำคัญ เรื่อยมา และเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ในหลายยุคหลายสมัย มีพระมหากษัติย์หลายพระองค์เคยเสด็จประพาส หนึ่งในนั้นคือ รัชกาลที่ ๒ ที่มีการจัดสร้างอุทยาน ร.๒ อยู่บริเวณตลาดอัมพวานี่เอง



มาครั้งดี โชคดีมาก ๆ เพราะถือเป็นครั้งแรก ที่ผมได้พักที่อัมพวา แถมขอบอกว่า ได้รีสอร์ท ถูกใจด้วย บรรยากาศดีมั๊ก แถมอยู่ในบริเวณตลาดน้ำซะด้วย สวยแค่ไหนดูเอาเอง

ด้านหน้ารีสอร์ทคับ
หน้ารีสอร์ทครับ กับเด็กโข่ง

ประดับข้างฝาด้วยรูปภาพและของใช้แปลกตานันั่งจิบชาชมความงามเค้าเตอร์บริการ โดยเจ้าของรีสอร์ทเอง
ส่วนตอนหน้าของรีสอร์ท บริเวณหน้าเคาเตอร์ ประดับประดาด้วยภาพเก่า และของใช้โบราณ และของสะนม ที่ดูแล้วต้องอมยิ้มครับ
พนักงานประจำครับ  ทำหน้าาที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทด้วย
บริการโดย เจ้าของรีสอร์ทเองเลย งานนี้ มีแต่รับทรัพย์ครับ

อีกมุมสำหรับวงสนทนา ของผู้ใหญ่ระดับทั่ว ๆ ไปอย่างเรา ๆ
มุมพักผ่อน จิบชา น่าสบายเสียนี่กระไร

ย้ายไปดูด้านในกันบ้างดีกว่านะ


ระหว่างด้านหน้า กับเรือนพัก มีสระน้ำ เล็ก มีปลาค๊าปกับปลาทองแหวกว่ายให้เป็นเพื่อนฝูงเก้าเจ้าหางนกยูง ซะด้วย

กระจกระหว่างทางเดินบริเวณที่พัก
บริเวณระหว่างทางเดิน มีคนบางคนเห็นกระจกแล้วอดไม่ไหวครับ วิ่งเข้าไปทักทายคู่แฝดซะหน่อย
จากภาพขวา จะเห็นว่า มีบันไดขึ้นชั้นบนด้วย นั่นคือ ที่นี่มีสองชั้น ไม่แน่ใจว่า 8 ห้อง หรือไม่ มะได้นับครับ แต่ผมอยู้ชั้นบน เลยเก็บภาพระเบียงชั้นสองมาฝากอีกภาพ

 

การเดินทาง
การเดินทางสุ่อัมพวา ถ้ามาจากรุงเทพ ก็แนะนำให้เดินทางโดยรถทัวว์สาย กรุงเทพ-ดำเนินสะดวกสะดวก บอกพนักงานว่าลงอัมพวา (จะลงบริเวณ หน้า ธ.กรุงเทพ ) หลังจากนั้นก็ถามชาวบ้านได้เลยครับว่า ตลาดน้ำไปทางไหน เดินไปได้เลย เพราะตอนนี้คุณอยู่ห่างจากคลองอัมพวา เพียงไม่ถึง 100 เมตร เอง(ภูมิใจที่ได้ถามมั๊ย) หลังจากนั้นก็นชมความงามกันตามอัธยาศัยครับ
หรือหาบางคน เดินทาง เดินทางโดยรถทัวว์สาย กรุงเทพ-แม่กลอง หรือรถตู้แม่กลอง-อนุสาวรีชัยสมรภูมิ(ขึ้นรถบริเวนใต้ทางด่วน) ก็จะต้องไปต่อรถ ตุ๊กตุ๊ก คิวรถอยู่บริเวณหน้า 7-eleven ไม่แน่ใจก็ใช้ปากให้เป็นประโยชน์ครับ ไม่ใช่เรื่องหน้าอายอะไรครับ ค่ารถ 10 บาท ก็จะไปลงที่หน้า ธ.กรุงเทพเช่นเดียวกัน

บรรยากาศยามเย็น หลังจากเก็บของเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ใกล้ใกล้ค่ำ เราก็ใช้เวลาส่วนตัวเดินชมตลาดตามอัธยาศัย ได้ ได้เห็นบรรยากาศอีกอย่างของอัมพวา และรู้เลยว่าทำไม ที่นี่จึงเป็นที่ที่ ขึ้นชื่อว่า มีสาวสวย แม่ค้าหน้าหวาน ตาคม ก็ดูที่ภาพที่สามสิครับพี่ บ้านเรือนที่นี่ หัวกระไดไม่เคยแห้ง



ยามเช้า

เช้ามาทางรีสอร์ท ก็เตรียมอาหารไว้ให้เราได้ใส่บาตรกัน มีทั้งพระบิณฑบาตร และ พระพายเรือบิณฑบาตรครับ ผมเลือกที่จากใส่บาตร พระพายเรือ เหมือนกับสมาชิกอีกหลายคน บางคนก็ใส่ทั้งพระที่พายเรือและพระที่เดินบิณฑบาตรเลย

เดินชมวิถีชีวิตยามเช้า ตามแต่ใครสนใจอะไร ผมได้เดินไปชมรอบ ๆ ก็ได้ถาพเหล่านี้มาให้ชมกันพองาม .
บริเวณหน้าบ้านแม่อารมณ์



พวกเค้าเหล่านี้ก็มีวิถีชีวิต ที่เป็นของตนเอง ที่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนอันใดให้ใคร ก็ขอกันไว้ว่าอย่าไปทกร้ายเค้าเลยนะครับ

ยามบ่ายได้เวลาตลาดน้ำ

อย่างที่รู้กัน ตลาดน้ำนั้นเริ่มเมื่อยามบ่าย บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ก็จะพายเรือออกมาขายของ


บรรดาลูกค้า แขกไปใครมา ก็เรียกซื้อกันจากหัวบันได ไปจนถึงตามท่าน้ำต่าง ๆ ตามแต่จะมีที่ว่างให้จับจอง

อุทยาน ร.๒จริง ๆ แล้ว หลังจากเดินชม ตลาดอัมพวา แล้ว เที่ยง ๆ เราก็เดินไปชม อุทยาน ร.๒ กัน เพราะอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน แต่กลัวขอน้ำภาพเหล่านั้นมารวมไว้ตอนท้ายแล้วกันนะ

บระเวณเรือนประทับ ของรัชกาลที่ ๒ ในมุมต่าง ๆ



อาคารห้องสมุด

บริเวณเรือนสร้างใหม่


บ้านนกมะพร้าว

ปิดท้ายด้วย สถานที่ สุดประทับใจ อึกหนึ่งความคิดของคนไทย สร้างรายได้ ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน จากมันสมอง สองมือ และความคิดสร้างสรรค์


ไม่ได้มีแน่แบบที่เป็นนกนะ แบบที่เป็นกระถาง เค้าก็มี

หรือแบบอื่น ๆ ที่แปลกตา เหมาะสำหรับ คนทำค้าขาย จะหาซื้อมาประดับร้านก็สวยเก๋ แถมเป็นการกระจายรายได้ให้กับคนไทย เงินไม่ไหลออกนอก ด้วยนะครับ

 
Edite By | Phoenix |Valentine 2007